การพัฒนาความสามารถในการคิดคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L

ชื่อเรื่อง      การพัฒนาความสามารถในการคิดคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L

ชื่อผู้ศึกษา   จิตรา  รัตนบุรี

ปีที่ศึกษา     ปีการศึกษา  2560

 

บทคัดย่อ

การพัฒนาความสามารถในการคิดคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3             โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2  ภาคเรียนที่ 2  ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาลวัดโคกสะท้อน สังกัดเทศบาลเมืองทุ่งสง จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร จำนวน 7  เล่ม  แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบประเมินความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (rating scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย () ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ และการทดสอบ t-test แบบ Dependent Samples

ผลการวิจัย พบว่า

  1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.32/86.44 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
  2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
  3. นักเรียน มีความพึงพอใจในการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง                   การหาร ที่จัดการเรียนรู้แบบ TAI  กับการสอนแบบ 4 MAT และเทคนิค K-W-D-L อยู่ในระดับมาก